• Welcome to ลงประกาศฟรี โพสฟรี โปรโมทเว็บไซด์ให้ติดอันดับ SEO ด้วย PBN.
 

poker online

ปูนปั้น

ตู้คอนโทรลไฟฟ้า คืออะไร

Started by Cindy700, August 21, 2023, 01:02:37 AM

Previous topic - Next topic

Cindy700

ตู้คอนโทรลไฟ เป็นเครื่องมือที่มีความหมายอย่างมากมาย เพราะใช้เป็นตัวคอนโทรลไฟฟ้าอีกทั้งระบบ หรือเครื่องจักรต่างต่างๆซึ่งปฏิบัติภารกิจคุมไฟฟ้านั่นเอง ตู้คอนโทรลไฟ ไปยังส่วนต่างๆของเครื่องจักร หรือเครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆมีหลายแบบ ลูกค้าสามารถประกอบตู้คอนโทรล เอาไว้ภายในงานต่างๆที่ต้องการได้ ตัวอย่างเช่น การคอนโทรลมอเตอร์ ควบคุมปั๊มน้ำ รวมทั้งยังประกอบตู้สำหรับใช้คอนโทรลเครื่องจักร ซึ่งแบ่งตู้ได้ตามลักษณะของการนำไปใช้งาน และก็ตามขนาด ตู้คอนโทรลไฟ ที่ใช้ในงานซึ่งมีบทบาทไม่เหมือนกันออกไป ดังนี้
  • ตู้สวิทซ์บอร์ด หรือ ตู้ MDB (Main Distribution Board) ตู้ MDB เป็นตู้ควบคุมระบบกระแสไฟฟ้าหลัก รูปแบบการทำงานของตู้ MDBคือการรับไฟที่ส่งมาจากการไฟฟ้าหรือ ต้านเเรงดันต่ำของหม้อเเปลงไฟฟ้าเเล้วก็เลยจ่ายโหลดไปยังส่วนต่างๆของอาคาร เเละมี Main Circuit Breaker รอเป็นตัวตัดต่อวงจรไฟฟ้าทั้งหมดมีเเผงจ่ายไฟฟ้าขนาดใหญ่ โดยธรรมดาใช้กันในตึกที่มีขนาดกลางขึ้นไป รวมถึงโรงงานอุตสาหกรรมที่มีการใช้ไฟในจำนวนมาก
  • ตู้เเผงควบคุมกระแสไฟฟ้ารอง หรือ SDB,DB (Sub Distribution Board) ตู้ควบคุมไฟฟ้ารอง จ่ายกระเเสไฟฟ้าไปตามตู้ PB. (Panel board) หรือ Load Center หลายๆตู้ขึ้นอยู่กับขนาดของอาคารลักษณะก็จะคล้ายกับ ตู้สวิทซ์บอร์ดเเต่มีขนาดเเละพิกัดของตู้เล็กมากยิ่งกว่า เเละเครื่องมือทางไฟฟ้าข้างในก็ลดหลั่นลงมา
  • ตู้ MCC (Motor Control Center) หมายถึง ตู้เเบบตั้งพื้นที่ประกอบไปด้วยตู้เเนวตั้งเเละเป็นที่รวมของชุดควบคุมมอเตอร์ โดยชุดควบคุมมอเตอร์จะจัดตั้งเหนือชุดควบคุมมอเตอร์อื่นๆในเเนวตั้งเเละชุดควบคุมมอเตอร์เหล่านี้จะมีบัสในเเนวตั้งที่ต่อเข้ากับบัสกำลังในเเนวนอน
  • ตู้ PFC (Power-factor-Correction) ในระบบไฟฟ้ากำลังการแก้ไขค่าเพาเวอร์เเฟคเตอร์ มีความสำคัญอย่างยิ่ง เนื่องมาจากเป็นตัวที่ทำให้รายจ่ายต่างๆเพิ่มขึ้นหรือน้อยลงได้ ระบบไฟฟ้าที่มีค่าเพาเวอร์เเฟคเตอร์ต่ำจะมีการสิ้นไปในระบบมากมาย ด้วยเหตุนั้น เครื่องมือที่นำมาใช้งานจำต้องมีขนาดใหญ่ขึ้นทำให้ค่าใช้จ่ายสำหรับในการซื้อเครื่องไม้เครื่องมือต่างๆเพิ่มขึ้น

โดยเหตุนี้การแก้ไขค่าเพาเวอร์เเฟคเตอร์ให้มีค่าสูงมากขึ้นก็เลยมีความสำคัญต่ออาคารสำนักงานเเละโรงงานอุตสาหกรรมนั้นๆความเป็นจริงในอาคารหรือโรงงานอุตสาหกรรมต้องการพลังงานไฟฟ้าจริง (Real Power) เเละกำลังไฟฟ้า รีเเอคทีฟ (Reactive - Power) เพื่อใช้สำหรับในการทำงาน